6 ทักษะสำหรับ Project Manager ขั้นเทพ

และแล้ว PMBOK หรือ Project Management Body Of Knowledge ก็ได้เดินทางมาถึง Edition ที่ 6th Edition ที่ได้เริ่มใช้อย่างเป็นทางการสำหรับคนที่จะสอบ PMP หลังจาก วันที่ 26 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป โดย PMBOK 6th Edition มีจุดเปลี่ยนแปลงที่พัฒนาจาก PMBOK 5th Edition ในหลายประเด็น เช่น จำนวน Process ทั้งหมด เพิ่มจากเดิม 47 Processes เป็น 49 Processes และมีการเปลี่ยนชื่อองค์ความรู้บางส่วน เช่น เปลี่ยนจาก Time Management เป็น Schedule Management รวมถึงมีการเพิ่มเทคนิคการบริหารโครงการแบบ Agile เข้ามาใน PMBOK 6th Edition นี้ด้วย เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการปรับปรุงที่ดี เพื่อให้รองรับกับสภาพโครงการในปัจจุบันที่เน้นเรื่องการส่งมอบผลงานให้ลูกค้าอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่อง และปรับตัวอย่างรวดเร็ว ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ PMBOK 6th Edition ยังเน้นย้ำบทบาทหน้าที่ของ Project Manager มากขึ้น โดยแยกเรื่องบทบาทหน้าที่ของ Project Manager ออกมาเป็นอีกหนึ่ง Chapter ก่อนเข้าสู่องค์ความรู้ทั้ง 10 องค์ความรู้ บทความนี้จะขออธิบายจุดที่เปลี่ยนแปลงไป จาก PMBOK 5th Edition สู่ PMBOK 6th Edition ดังนี้

1. สามารถประเมินความเสี่ยง ทำนายอนาคต และป้องกันปัญหาก่อนจะเกิดขึ้นได้
Project Manager (Proactive) Project Manager

2. เข้าใจ Outcome ของโครงการอย่างชัดเจน และวัดผล Outcome ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ความแตกต่างสำคัญอีกประการหนึ่ง ระหว่าง Project Manager มือใหม่กับ Project Manager ขั้นเทพนั้น ก็คือ การให้ความสำคัญระหว่าง Output กับ Outcome ของโครงการ  โดยทั่วไป Project Manager มือใหม่ จะสนใจสิ่งที่ตนเองต้องส่งมอบตาม Requirement หรือ Output นั่นเอง โดยมุ่งเน้นให้สามารถส่งมอบได้ ตาม Scope, Time, Cost, Quality ที่กำหนด  แต่สำหรับ Project Manager ขั้นเทพนั้น เขาจะไม่เพียงแค่ส่งมอบ Output เท่านั้น แต่เขายังต้องการที่จะส่งมอบ Outcome หรือประโยชน์ของโครงการให้กับองค์กรด้วย เขาจะตั้งคำถามว่า สิ่งที่ได้จากโครงการนี้ มีประโยชน์อะไรกับองค์กร  เขาจะทำความเข้าใจ Outcome ที่องค์กรคาดหวังจากสิ่งส่งมอบในโครงการของเขา ทำความเข้าใจความคาดหวังของผู้บริหารให้ชัดเจน และพยายามกำหนด Outcome ของโครงการให้ชัดเจน ตั้งแต่เริ่มโครงการ รวมถึง กำหนดตัวชี้วัด Outcome ให้ชัดเจน วัดผลได้เป็นรูปธรรม เพราะเขาเข้าใจดีว่า โครงการที่ส่งมอบเพียง Output แต่ไม่สามารถส่งมอบ Outcome ได้นั้น ถือเป็นโครงการที่ล้มเหลว

3.  เข้าใจความต้องการ และระดับอำนาจของ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคนในโครงการ
pmp, pmp training, knowledgertraining, อบรม pmp, อบรม project managerผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือที่เรียกกันว่า Stakeholders นั้น หมายถึง คน กลุ่มคนหรือองค์กร ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ หรือมีความสามารถในการสร้างผลกระทบให้กับโครงการได้ และ Stakeholders เหล่านี้ ที่จะเป็นผู้กำหนดความต้องการของโครงการ  การมองข้ามความต้องการของ Stakeholder คนสำคัญ หรือการไม่เข้าใจความต้องการของ Stakeholder จะนำไปสู่ปัญหาในโครงการอย่างมากมาย เช่น ขอบเขตของโครงการถูกเปลี่ยนแปลงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หรือสิ่งส่งมอบของโครงการไม่ได้รับการยอมรับจาก Stakeholder คนสำคัญ และท้ายที่สุด ก็ส่งผลให้โครงการล้มเหลว  และสำหรับ Project Manager ขั้นเทพนั้น จะต้องมีความสามารถในการสื่อสารกับ Stakeholder ทุกคน เพื่อค้นหาความต้องการของเขาเหล่านั้น ตั้งแต่เริ่มโครงการ ทั้งความต้องการที่ถูกเขียนเป็นเอกสารออกมาอย่างชัดเจน และความต้องการที่เป็นสิ่งปรารถนาของ Stakeholder ที่ไม่ได้ถูกบันทึกเป็นเอกสารชัดเจน  ทักษะดังกล่าว Project Manager ขั้นเทพ จำเป็นต้องมองโครงการ จากมุมมองของ Stakeholder แต่ละคน เพื่อให้สามารถคาดเดาความต้องการต่างๆได้ รวมถึงยังต้องมีความสามารถในการ บริหารความขัดแย้ง เมื่อความต้องการของ Stakeholder คนสำคัญหลายๆคน เกิดความขัดแย้งกัน  เพื่อให้สามารถ กำหนดความต้องการของโครงการให้เป็นที่เห็นชอบและได้รับการสนับสนุนจาก Stakeholder คนสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่า สิ่งส่งมอบของโครงการจะได้รับการยอมรับ และโครงการจะประสบความสำเร็จ

4. สามารถบริหารการเปลี่ยนแปลงในโครงการได้ดี
ทุกๆโครงการมักจะประสบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในโครงการ มาจากหลายปัจจัย เช่น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เปลี่ยนแปลงความต้องการในโครงการหรือเกิดปัญหาที่ไม่ได้วางแผนรองรับไว้ก่อน เป็นต้นการเปลี่ยนแปลงนั้นส่งผลกระทบต่อ Scope, Time, Cost, Quality ของโครงการ และบางครั้ง รุนแรงถึงขั้นส่งผลต่อ Outcome ของโครงการเลยก็เป็นได้  Project Manager ขั้นเทพนั้น นอกจากจะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่จำเป็นแล้ว ยังต้องมีทักษะในการบริหารการเปลี่ยนแปลงต่างๆในโครงการ เช่น การประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง  การเสนอขออนุมัติการเปลี่ยนแปลง การปรับแผนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง  การสื่อสารแผนโครงการใหม่ที่ปรับให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง และการดำเนินการตามการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับอนุมัติแล้ว  สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่มีรายละเอียดและขั้นตอนมาก อีกทั้งยังต้องอาศัย Project Manager ที่มีประสบการณ์ เพื่อทำการประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง เพื่อบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ ให้ถูกควบคุม และดำเนินการอย่างเป็นระบบ

5. เชี่ยวชาญการสร้างแรงจูงใจ และพัฒนาทีมงาน
ทักษะข้อนี้ คงไม่ต้องอธิบายว่ามีความสำคัญอย่างไร โครงการทุกโครงการต้องอาศัยทีมงานในการดำเนินการ ปฏิบัติการดังนั้น Project Manager ที่มีประสบการณ์จะต้องมีทักษะในการพัฒนาทีมงาน สร้างแรงจูงใจให้ทีมงาน สร้างทีมเวิร์คที่ดีในการทำงาน มอบหมายงานให้เหมาะกับทักษะของแต่ละบุคคล สร้างเป้าหมายร่วมกันของทีมงาน บนพื้นฐานของความเข้าใจเป้าหมายส่วนตัวของแต่ละคนในทีมงาน  เข้าใจและรับฟังความคิดเห็นของทีมงาน  บริหารความขัดแย้งได้ดีและมีสำนึกรับผิดชอบ (Sense of Accountability) ต่อผลการทำงานของทุกคนในทีมงาน ทั้งผลด้านดีและผลด้านร้าย สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงภาวะผู้นำของ Project Manager ขั้นเทพ ที่สามารถรวมพลังของทุกคนในทีม มาเป็นพลังของทีมงานในโครงการได้

6.สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และนำเสนอจูงใจคน

ทักษะข้อนี้ เป็นทักษะที่ Project Manager ทั้งมือใหม่และขั้นเทพต้องใช้อยู่บ่อยครั้ง เนื่องด้วยงานหลักของ Project Managerpmp, pmp training, knowledgertraining, อบรม pmp, อบรม project manager นั้น คือการสื่อสารกับทีมงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการ เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จ ทักษะการสื่อสารจะถูกนำไปใช้ในหลายๆจุดประสงค์ เช่น การสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย  การค้นหาความต้องการที่แท้จริงของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย  การจูงใจทีมงาน การสอนงาน  การนำเสนอผลงาน  การค้นหาความจริงต่างๆเพื่อการตัดสินใจ การเจรจาต่อรอง และการบริหารความขัดแย้ง เป็นต้น  เหล่านี้ล้วนต้องอาศัยทักษะการสื่อสารและจูงใจเป็นสำคัญในการทำงาน  ดังนั้น Project Manager ขั้นเทพ จะต้องฝึกฝนทักษะดังกล่าว จนสามารถใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ  สื่อสาร เข้าใจง่าย  น่าฟัง น่าเชื่อถือ และมีเหตุผลสนับสนุนให้คล้อยตาม บนพื้นฐานของความจริงและความเป็นมืออาชีพ